วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่  3
วันที่  12  กันยายน  2559
ความรู้ที่ได้รับ

  • STEM/STEAM Education
         STEM เป็นการจัดการศึกษาแบบบูรณาการความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ นำลักษณะทางธรรมชาติของแต่ละสาระวิชามาผสมผสานและจัดเป็นการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน   เน้นการนำความรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริง  รวมทั้งการพัฒนากระบวนการผลิตใหม่ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตและการทำงาน
          STEM Education (สะเต็มศึกษา)ประกอบไปด้วย
  1. Science
  2. Technology
  3. Engineering
  4. Mathematics
1.Science (วิทยาศาสตร์)  
         -  การเรียนรู้เรื่องราวของธรรมชาติ 
 ช่น ปรากฏการณ์ต่าง ๆ โดยผ่านกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ ซึ่งวิทยาศาสตร์นั้นมีเป้าหมายหลักเพื่อใช้อธิบายกฎเกณฑ์หรือ ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ตามธรรมชาติโดยใช้หลักและระเบียบวิธีการทางวิทยาศาสตร์
2.Technology (เทคโนโลยี)
         -  วิทยาการที่นำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติและอุตสาหกรรม 
         -  สิ่งที่เราสร้างหรือพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้อำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิต 
         -  ไม่ใช่มีความหมายเพียงแค่คอมพิวเตอร์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น แต่หมายรวมไปถึงสิ่งประดิษฐ์ตามยุคสมัยต่าง ๆ อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือรวมไปถึงเครื่องใช้ทั่วไปอย่าง ยางลบ, มีด, กรรไกร, กบเหลาดินสอ เป็นต้น
3.Engineering (วิศวกรรมศาสตร์)
          -  ทักษะกระบวนการในการออกแบบ สร้างแบบ รวมไปถึงการวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหา โดยการใช้องค์ความรู้ด้านต่าง ๆ มาสร้างสรรค์ออกแบบผลงานที่ใช้งานได้จริง 
          -  กระบวนการในการทำงานของวิศวกรรมศาสตร์นั้น สามารถนำมาบูรณาการกับหลักแนวคิดของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ได้ 
          -  ช่วยส่งเสริมทำให้เกิดการพัฒนาทางความคิดออกแบบสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น
4.Mathematic (คณิตศาสตร์)
          -  วิชาที่ว่าด้วยเรื่องของการคำนวณ
          -  เป็นการเรียนรู้ในเรื่องราวของจำนวน ตัวเลข รูปแบบ ปริมาตร รูปทรงต่างๆ รวมไปถึงแบบรูปและความสัมพันธ์ (พีชคณิต) ฯลฯ 
          -  ทักษะทางคณิตศาสตร์นี้เป็นทักษะที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกแขนงวิชา เพราะเป็นศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้ มีความแม่นยำ 
  • “STEM” กับการจัดการเรียนการสอนระดับปฐมวัย
         “STEM” แทรกเข้าไปในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามหน่วยที่ครูจัดขึ้น หรือเลือกตามหน่วยที่เด็กสนใจได้อย่างหลากหลาย จะทำให้เด็กสนุกกับการเรียนในห้องมากขึ้น 
การศึกษาแบบ “STEM” เป็นการศึกษาที่ช่วยทำให้เด็กอยากเรียนรู้ด้วยตนเอง เปลี่ยนการเรียนแบบท่องจำมาเป็นการเรียนรู้แบบลงมือทำ ปฏิบัติจริง ทดลอง สืบค้น และใช้วัสดุอุปกรณ์ 
ทำให้เด็กได้ใช้ความสามารถของตนเองอย่างเต็มที่ ได้รับความสนุกสนาน และมีความสนใจในวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ มากยิ่งขึ้น 
  • STEAM Education
         การนำ “STEM” มาบูรณาการกับทักษะทางศิลปะ “Art” 
เพื่อจะทำให้เด็กได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ และมีจินตนาการในการออกแบบชิ้นงานนั้น ๆ ให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น
          STEAM Education (สะตีมศึกษา)ประกอบไปด้วย
  1. Science
  2. Technology
  3. Engineering
  4. Art
  5. Mathematics
  • กิจกรรมตกแต่งจานกระดาษ
แบ่งกลุ่มแล้วนำอุปกรณ์ที่ได้มาสร้างสรรค์เป็นผีเสื้อ
ภาพวัสดุอุปกรณ์

ภาพผลงานผีเสื้อ
  • กิจกรรมสร้างกรงเลี้ยงผีเสื้อ
ให้แต่ละกลุ่มนำไม้,ดอกไม้,ดินน้ำมันที่เตรียมมา  นำมาสร้างและตกแต่งกรงผีเสื้อให้สวยงามพร้อมทั้งนำผีเสื้อไปใส่ในกรง


ภาพกรงผีเสื้อที่เสร็จสมบูรณ์
  • กิจกรรมถ่ายภาพ
โดยให้แต่ละกลุ่มประดิษฐ์วงจรชีวิตของผีเสื้อด้วยดินน้ำมันแล้วถ่ายภาพเพื่อนำมาทำเป็นVDOโดยใช้โปรแกรม Stop Motion Video

ภาพไข่ผีเสือ

ภาพหนอนผีเสื้อ
  • การนำไปประยุกต์ใช้
สามารถนำความรู้ไปบูรณาการในการจัดกิจกรรมการสอนเด็กได้
  • การประเมินผล
ประเมินตนเอง  วันนี้มาสาย  มีความตั้งใจในการทำงานกลุ่ม
ประเมินเพื่อน  เพื่อนให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมและผลงานออกมาได้ดี
ประเมินผู้สอน  ผู้สอนมีกิจกรรมที่หลากหลายน่าสนใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น